วัดไร่ขิง เงินบุญล่องหน ศรัทธากลายเป็นเครื่องมือหากิน ทีมข่าวลงพื้นที่หาปลายทางของเงินทำบุญจากตู้บริจาค แต่สุดท้ายยังไม่ได้คำตอบชัดเจน และอาจมีอีกหลายวัดที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน
วัดไร่ขิง พระอารามหลวง มีผู้ศรัทธานับหมื่นคนแวะมากราบไหว้ ทำให้มีเงินทำบุญมูลค่าหลายร้อยล้านบาท และนี่อาจไม่ใช่แค่เรื่องของบุญ แต่คือเรื่องของ “ระบบ” ที่อาจเปลี่ยนศรัทธาให้กลายเป็นรายรับส่วนตัว
ทุกวันที่ผู้คนเดินเข้าวัด พวกเขาหยิบเงินหย่อนลงในกล่องเล็ก ๆ เหล่านี้ โดยกล่องที่อ้างว่า ‘ตู้นี้บริจาคเพื่ออะไร เคยคิดไหมว่าเงินที่หย่อนทำบุญลงไปหายไปไหน เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน… แต่มันคือเส้นทางของ ‘ศรัทธา’ ที่ควรถูกตรวจสอบได้”
วิเชียร นรจีน กรรมการวัดไร่ขิง กล่าวว่า เมื่อก่อนเปิดตู้ไหนก็นับแยกกันเลยว่าตู้ละได้เท่าไหร่ จดไว้หมด แต่ช่วงหลังมาเปิดรวมหมด เอามานับกองเดียวกัน
ทีมข่าวเราพบตู้บริจาคระบุชัดเจนว่าเป็นของวัดไร่ขิง บางตู้เขียนชื่อหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ หนึ่งในนั้นมีชื่อโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ที่ล่าสุดออกมายืนยันว่าไม่เคยได้รับเงินจากตู้บริจาควัดไร่ขิงมาเป็นกว่า 5 ปี ขณะที่โรงพยาบาลสามพรานกำลังถูกตรวจสอบกรณีเดียวกัน
ทีมข่าวได้พยายามติดต่อกับโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ถูกระบุชื่อไว้ข้างตู้บริจาคภายในวัดไร่ขิง แต่หลังจากติดต่อไม่ได้ทีมงานตัดสินใจเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามความจริง แต่ก็ได้คำตอบที่ไม่ชัดเจน ทีมงานเจอนักเรียนกลุ่มหนึ่งจึงเข้าไปสอบถามเรื่องทุนการศึกษา ซึ่งพบว่ายังไม่มีการให้ทุนการศึกษาที่มาจากวัด
แต่สิ่งที่ชัดเจนคือเงินบางส่วนไม่ได้ไปถึงปลายทางตามที่เขียนไว้ โรงพยาบาลบอกไม่เคยได้รับ โรงเรียนไม่มีใครกล้าตอบเว้นแต่เสียงเด็กนักเรียนที่ยังเชื่อว่าเคยมีทุนการศึกษาจริง
คำถามคือเงินทั้งหมดหายไปไหน หรือระบบนี้กำลังเปิดช่องให้ใครบางคนเปลี่ยนศรัทธาให้กลายเป็นกำไรส่วนตัวโดยไม่มีใครตรวจสอบ
จากข้อมูลพบว่ารายได้จากวัดไร่ขิง ปี 2567 จากการตรวจสอบของตำรวจสอบสวนกลาง คือ รายได้ที่นำส่งห้องการเงิน 107 ล้านบาท และยังมีรายได้ที่ไม่นำส่งห้องการเงินมีถึง 69 ล้านบาท เฉลี่ยมีรายได้ต่อวัน 4 แสนบาท ต่อเดือนอยู่ที่ 14.7 ล้านบาท รวมทั้งปีวัดไร่ขิงมีรายได้ถึง 176 ล้านบาท
แม้คดีวัดไร่ขิงยังอยู่ระหว่างสอบสวน แต่สิ่งที่เปิดเผยแล้วคือ “ช่องโหว่” ของระบบศาสนาไทย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระสงฆ์ระดับสูงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการจัดการเงินของวัด คดีนี้อาจเป็นบทเรียนสำคัญถึงความจำเป็นในการมีระบบตรวจสอบทรัพย์สินของวัดอย่างโปร่งใส เพราะหากความยุติธรรมไม่กล้าก้าวข้ามธรณีวัด อาจไม่มีใครเหลือให้ศรัทธาอีกต่อไป
（编译：Eric 泰国中文社；审校：Suki；来源：Thairath）
