“จักรภพ” ยืนยัน จบอย่าง “มวยล้ม” ไม่ได้ ชีวิตทหาร-ผู้บริสุทธิ์ต้องชดใช้

泰国中文社
45 Min Read

“จักรภพ” ยืนยัน จบง่ายเหมือน “มวยล้ม” ไม่ได้ ชีวิตทหาร-ผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับการชดใช้ สันติภาพถึงเกิด  ย้ำไม่ไว้ใจคำพูด “ผู้นำกัมพูชา” อีกแล้วหลังเล่นเกมหลายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 2568 นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ปรึกษาของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ต่อสายถึงนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทั้งสองประเทศหยุดยิงทันที พร้อมขู่ว่าจะระงับการเจรจาการค้ากับทั้งสองประเทศ หากความขัดแย้งยังดำเนินต่อไป ว่า นอกจากประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ยังมีตัวแทนของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ติดต่อมา และมีตัวแทนของอาเซียนก็คือนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย ที่เสนอตัวเข้ามาช่วยอย่างสึกในครั้งนี้ แต่ด้วยความที่สหรัฐอเมริกา นำเรื่องข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาไปผูกไว้กับภาษีทรัมป์ จึงทำให้ไทยต้องพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งประเทศไทยมีจุดยืนชัดเจนแล้วว่า ความก้าวร้าวของกัมพูชานั้นยังไม่หยุดหย่อน เพราะฉะนั้นการที่จะเดินเข้าสู่โต๊ะเจรจาในขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่เห็นด้วย

จบง่ายเหมือน “มวยล้ม” ไม่ได้

นายจักรภพ กล่าวด้วยว่า “เพราะฉะนั้นประเทศไทยอาจจะต้องมีสิ่งที่ต้องทำ เรื่องของการโต้ตอบอย่างสมควร เรื่องของการพิทักษ์ศักดิ์ศรีของประเทศเพื่อประชาชน อาจจะมีบางเรื่องที่จะต้องทำก่อนที่จะเดินเข้าสู่โต๊ะเจรจา พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เราไม่ต้องการให้กัมพูชาก้าวร้าวถึงวินาทีสุดท้าย และเราจะไม่เดินเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างง่ายดายเกินไป นี่คือสิ่งที่เราตอบไปกับฝ่ายสหรัฐฯ” นายจักรภพ กล่าวและว่า “ประเด็นหลักที่ขณะนี้ไทยควรจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด จะไม่ผลีผลามเดินเกมเข้าในเรื่องของการเจรจา เนื่องจากกัมพูชาเป็นฝ่ายที่เริ่มต้นเรื่องนี้ก่อน และสร้างความเสียหายให้กับประชาชนภายในประเทศของเรา จะให้จบง่ายๆ เหมือนมวยล้มคงจะไม่ได้”

ย้ำไทยมีแผนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าแสดงว่าขณะนี้ ไทยรอท่าทีของทางกัมพูชาเป็นหลัก หากทางฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากเจรจาก่อนว่าเป็นฝ่ายที่พร้อมจะหยุดยิงเราก็พร้อมที่จะพูดคุยใช่หรือไม่ นายจักรภพ ตอบว่า ไม่ได้ครับ “เรามีแผนของเราเองอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่กัมพูชาทำอยู่ตอนนี้ นั้น เราไม่ต้องคอยกัมพูชาอีกแล้ว ต้องปฏิบัติการให้เสร็จในส่วนของเรา ซึ่งก็ยังขอสงวนไว้ว่าจะเป็นวิธีการอย่างไร แต่จากนั้นถ้าหากกัมพูชายอมรับว่าตนเองทำผิด ยอมรับว่าได้กระทำอาชญากรรมระหว่างประเทศ ประเทศไทยจะพิจารณาที่จะเข้าสู่กระบวนการเจรจา เรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการเจรจาตามสูตรของสหรัฐเท่านั้น จะคิดถึงสูตรของจีน ของอาเซียนด้วย

ผลประโยชน์การค้าแลกอธิปไตยไม่ได้

เมื่อถามว่าเหตุใด ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องเอาภาษีมาข่มขู่เพื่อให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง นายจักรภพ เชื่อว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นนักธุรกิจ เรื่องใดก็ตามที่หยิบขึ้นมาต่อรองได้ เขาจะกระทำที่แปลกไปจากหลักการระหว่างประเทศพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ไทยนำมาพิจารณา “แต่ผลประโยชน์ทางการค้ากับผลประโยชน์ด้านอธิปไตยและดินแดน มันแลกกันไม่ได้” และได้บอกชัดไปกับสหรัฐอเมริกาแล้วว่า เราสนใจที่จะเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกาให้ลงตัว ไม่ให้กระทบต่อภาษีจำนวนมหาศาลที่ทำให้คนไทยเดือดร้อน แต่จะให้เราแลกด้วยศักดิ์ศรี แลกด้วยการที่กัมพูชาจะได้ผยองว่าตนเองสามารถที่จะก้าวร้าวต่อไทยได้โดยไม่มีปฏิกิริยาสนองกรรมนั้น เรายอมไม่ได้ การที่ประเทศไทยจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเลย แล้วคนไทยจะต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตฟรี รัฐบาลไม่สามารถทำได้

ยอมรับ สหรัฐฯ กดดันหยุดยิง

นายจักรภพ ยังระบุด้วยว่า ส่วนตัวเห็นว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำหนดระยะเวลาการเจรจา และหยุดยิง ภายในวันที่ 1 สิงหาคมนั้น ค่อนข้างเป็นระยะเวลาที่บีบรัดพอสมควร แต่เราก็ต้องเร่งมือ นอกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เจรจาหลัก ก็ยังมีบุคคลอื่นที่มีความพร้อม ทั้งเจรจาเรื่องการค้า และเรื่องกัมพูชา ซึ่งเป็นการเจรจาควบกันไป ส่วนตัวเชื่อว่า ระยะเวลาที่เหลืออีก 1 สัปดาห์นั้นน่าจะทันเวลา ส่วนตัวคาดการณ์ว่า จากนี้ไป 1. ไทยก็คงจะต้องปฏิบัติการที่เตรียมไว้ให้เสร็จเรียบร้อย 2. เราจะได้พิจารณาว่าเราจะตอบกลับข้อเสนอแนะของสหรัฐอเมริกาในรูปแบบใด เช่นว่าเราจะเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อหยุดยิงหรือไม่ 3. กัมพูชาจะต้องถอนทหารออกจากพื้นที่ไปอยู่ในระยะที่ไทยจะแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือเงื่อนไขที่เราจะต้องพิจารณา

ซัดผู้นำกัมพูชา ตีสองหน้า

สำหรับตอนนี้หากจะวิเคราะห์ท่าทีของกัมพูชานั้น นายจักรภพ กล่าวว่า ตอนนี้กัมพูชาเล่นบทหลายหน้าหลายทาง เช่น ส่งสัญญาณมาว่าพร้อมที่จะเจรจาหยุดยิง หลังจากที่โดนไทยโต้กลับเพียงวันเดียว แม้ว่าทางฝั่งกัมพูชาจะเปิดฉากมาก่อน 2-3 วัน แต่เมื่อมีการสอบถามนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ก็บอกว่า ยังไม่มีจุดยืน แสดงให้เห็นชัดว่า กัมพูชาเล่นเกมหลายหน้า เพราะฉะนั้นต้องบอกว่าตอนนี้ประเทศไทยยังไม่ไว้ใจกัมพูชา ถ้าจะให้มีการเจรจาทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น กัมพูชาต้องทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อจะให้ไทยมั่นใจบางส่วนกลับคืนมา เช่น การถอนทหารกลับไปยังที่ตั้ง จุดที่ก่อนจะมีการขุดคูเรต

ไม่ไว้ใจอีกแล้ว

“ขณะนี้มีเพียงการส่งสัญญาณ แต่ก็ไม่ได้เป็นสัญญาณที่แน่ชัดจึงทำให้ทางประเทศไทยไม่สามารถไว้วางใจได้” นายจักรภพ กล่าวและว่า ขณะนี้กัมพูชาตกอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบอย่างรุนแรง เสียเปรียบตั้งแต่เปิดฉากยิงไทยก่อน เสียเปรียบตั้งแต่เอาเรื่องการเปิดด่านมาเป็นเรื่องหลัก ซึ่งมันจะไปเข้าทางที่หลายประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกาบอกว่า ที่กลัวปิดด่านก็เพราะว่ากลัวกิจกรรมใต้ดินจะได้รับผลกระทบ และสิ่งที่หนักที่สุดคือการโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยจงใจ นี่คือสิ่งที่กัมพูชาไม่มีวันที่จะได้เปรียบประเทศไทยในการเจรจาเลย

เชื่อแค่เขียนเสือให้วัวกลัว

สำหรับประเด็นล่าสุดที่มีการเปิดเผยทางออนไลน์ว่ากัมพูชามีขีปนาวุธที่สามารถยิงได้มากกว่า 100 กิโลเมตร นายจักรภพ กล่าวว่าส่วนตัวเชื่อว่า ข่าวที่ออกมา กัมพูชามีเจตนาเขียนเสือให้วัวกลัว ถ้าหากจะใช้อาวุธรุนแรงกันจริงๆ ประเทศไทยก็มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพเหนือกว่านั้น ซึ่งพูดง่ายๆ ว่าหากกัมพูชาคิดจะใช้อาวุธอย่างนั้นจริงๆ ประเทศไทยก็คงรีบดำเนินการไปก่อนแล้ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นใน 2 วันที่ผ่านมาไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยอีกต่อไป

ชีวิตต้องชดใช้ สันติภาพถึงเกิด

“ส่วนตัวผมยังหวังว่าเหตุการณ์จะจบลงได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่ขอย้ำว่าศักดิ์ศรีของประเทศไทยต้องอยู่ในที่ที่เหมาะสม การชดใช้ในสิ่งที่เสียไปไม่ว่าจะเป็นชีวิตการงานจิตใจจะต้องได้รับการชดใช้ จากนั้นสันติภาพจึงจะเกิดขึ้น”

ชี้พฤติกรรมกลับกลอกถึง 3 รอบ

นายจักรภพ กล่าวตอนท้ายด้วยว่า ที่ผ่านมา กัมพูชามีพฤติกรรมแบบนี้มาถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่การเปิดฉากยิงก่อนจนมาถึงเหตุการณ์ที่หลังจากยอมรับหลักการแล้ว ก็ยังคงมีการยิงอย่างต่อเนื่อง การกระทำแบบนี้ก็สื่อความหมายให้เห็นว่าไปทำหน้าตาดีอีกด้านหนึ่ง และทำหน้าตาโจรอีกด้านหนึ่ง เราจึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้งว่า จะไว้ใจกัมพูชาได้อย่างไร

(编译:Eric 泰国中文社;审校:Momo;来源:Thairath)

Share This Article
没有评论

发表回复

您的邮箱地址不会被公开。 必填项已用 * 标注