ศบ.ทก. เผยพาทูตดูจุดเกิดเหตุเน้นข้อเท็จจริง-20 ทหารกัมพูชาถูกคุมตัวเพราะกระสุนหมด

泰国中文社
57 Min Read

ศบ.ทก. แถลง ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 2 ฝ่ายตรึงกำลัง อยู่ในความสงบ เผย 20 นายทหารที่ไทยคุมตัว ยอมจำนนเพราะกระสุนหมด ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งรักษาตัว 2 นาย —พร้อมเตรียมนำทูตทหารลงพื้นที่ชายแดน เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง โดยจะไม่สร้างภาพลวง บิดเบือน เหมือนเขมร

วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุม ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

โดยพลเรือตรีสุรสันต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังเป็นลักษณะของการตรึงกำลังอยู่ทั้งสองฝ่าย โดยที่ผ่านมาเราได้มีการตรวจพบการใช้โดรนของฝ่ายกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามในสภาพแวดล้อมโดยรวมนั้นยังอยู่ในความสงบ

ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีผู้ถูกควบคุมตัว จำนวน 20 นาย อันนี้เป็นสาเหตุมาจากการยอมจำนนของทางฝ่ายทหารกัมพูชาจำนวน 20 นายนี้ เนื่องจากกระสุนหมด โดยในพื้นที่ช่องซัมแต อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยทั้ง 20 นายนั้น ถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้วยความผิดฐานเข้าเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนกรณีของผู้ถูกควบคุมตัวที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกส่งเข้ารับการรักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทั้ง 2 นาย อยู่ภายใต้การควบคุมกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

โดยประเด็นที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่ามีทั้งผู้บังคับบัญชาหรือผู้นำฝ่ายทหารของประเทศมาเลเซีย ได้เข้ามาสังเกตการณ์ และพูดคุยพบปะหารือกับทั้งทางฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของประเทศมาเลเซีย มีโอกาสเข้าไปพูดคุยพบปะหารือกับแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง กรณีปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อวันที่ 29 และ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ให้ไว้

โดยสรุปเนื้อหาของการหารือ ฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงข้อมูลของสถานการณ์ ก่อนที่จะนำไปสู่การปะทะกันของทั้งสองประเทศ โดยอธิบายหรือชี้แจงว่าฝ่ายไทย ได้ใช้ความพยายาม อดทนอดกลั้นประท้วงการละเมิดข้อตกลงต่าง ๆ ส่วนฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้การวางกำลังทหารและวางระเบิดทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งมีการใช้มวลชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการปลุกปั่นยั่วยุในบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งสถานการณ์ได้เกิดความตึงเครียดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนทางฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มปะทะที่ปราสาทตาเมือนธม ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นที่จะต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไว้ และเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้ ยืนยันว่าฝ่ายไทยนั้นได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและยินดีให้การสนับสนุนในเรื่องของการสังเกตการณ์ของทางฝ่ายมาเลเซียต่อไป และทั้งสองฝ่ายก็ได้เห็นพ้องร่วมกันว่าจุดมุ่งหมายของการเจรจาหยุดยิงนี้เพื่อไปสู่สันติภาพ ก็คือ การประกาศว่าจะหยุดยิงทันที ไม่เพิ่มกำลังทหาร และการช่วยเหลือทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในพื้นที่

นอกจากนี้ สถานการณ์หรือสถานภาพของผู้อพยพผู้ที่ลี้ภัยการปะทะฝ่ายพลเรือนที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตดังนี้ ผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน บาดเจ็บปานกลาง 13 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 13 คน รวมยอดทั้งหมด 52 คน

อีกประเด็นของฝ่ายความมั่นคง อยากจะนำข่าวดีที่เป็นเรื่องที่น่ารักมานำเสนอต่อพี่น้องประชาชน ว่าที่ผ่านมากองทัพบกเอง ได้จัดวงดนตรีดุริยางค์มณฑลทหารบกที่ 25 ออกทำการแสดงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนบ้านวังกลัด อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ และศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนบ้านโชกใต้ อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสร้างความบันเทิง และผ่อนคลายความเครียดให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนในศูนย์พักพิงดังกล่าว ซึ่งการแสดงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกองทัพในการดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากกรณีปะทะกันในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยการแสดงดังกล่าว แสดงไปเมื่อวันที่ 26-29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งหมด 8 พื้นที่ด้วยกัน ซึ่งผลตอบรับต้องชื่นชมว่าเป็นผลตอบรับที่ดีมาก ประชาชนรู้สึกพึงพอใจ และขอบคุณที่ทางกองทัพได้จากกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้ พร้อมกับหวังว่าในโอกาสอันใกล้นี้ก็ให้จัดกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

อีกทั้ง ในส่วนของด้านความมั่นคง อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนให้รับทราบว่าทาง ศบ.ทก.อยู่ระหว่างการเร่งบูรณาการด้านการสื่อสาร บริการให้ข้อมูลโดยเฉพาะกับผู้สื่อข่าว สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถี่ถ้วน แบบ One Stop Service เพื่อลดความเข้าใจผิด ความคลาดเคลื่อนในข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายตรงข้าม อันนี้ ศบ.ทก. ยังเร่งในการดำเนินการจัดการ ซึ่งคิดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะมีความเป็นรูปธรรม และสามารถให้พี่น้องสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศสามารถดึงข้อมูลต่าง ๆ มาได้อย่างถี่ถ้วนและสมบูรณ์

ศบ.ทก. เผยพาทูตดูจุดเกิดเหตุเน้นข้อเท็จจริง-20 ทหารกัมพูชาถูกคุมตัวเพราะกระสุนหมด

เชิญสื่อตปท. ลงพื้นที่ 22 สำนัก รวม 38 คน

ด้านนางมาระตี แถลงว่า สำหรับประเด็นด้านการต่างประเทศ วันนี้มี 2 เรื่องที่จะนำเรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบ สำหรับเรื่องแรกเป็นเรื่องของการเชิญผู้ช่วยทูตทหารและคณะทูต รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศไปสังเกตการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศบ.ทก. ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่าขณะนี้กระทรวงกลาโหม จะนำคณะนะคะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่สังเกตการณ์และประเมินผลกระทบจากการประทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในวันพรุ่งนี้ (1 สิงหาคม 2568) นอกจากนี้เพื่อให้ข้อเท็จจริง จากการลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รับทราบแก่สาธารณะชนอย่างกว้างขวาง รวมถึงในต่างประเทศ ขอเรียนว่ากระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่ขณะนี้จะมีจำนวน 22 สำนักงาน รวม 38 คน ลงพื้นที่ร่วมกับคณะผู้ช่วยทูตทหารในวันพรุ่งนี้ ซึ่งแน่นอนได้มีการเชิญสื่อไทยไปด้วย

ในส่วนของสื่อต่างประเทศจะมีความสำคัญเพราะว่าสื่อต่างประเทศจะเป็นช่องทางสำคัญอย่างมากที่จะช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกรับทราบ เกี่ยวกับการลงพื้นที่วันพรุ่งนี้ ประเด็นแรก พรุ่งนี้เป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทย พร้อมนำคณะผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูตและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศลงพื้นที่ โดยการลงพื้นที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนเป็นอันดับแรก ซึ่งไทยไม่ได้เป็นผู้โจมตีก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ว่าช่วงเวลาใดที่ปลอดภัย จึงต้องรอเวลานิดหนึ่ง ให้มีความแน่นอนในเรื่องนี้

ศบ.ทก. เผยพาทูตดูจุดเกิดเหตุเน้นข้อเท็จจริง-20 ทหารกัมพูชาถูกคุมตัวเพราะกระสุนหมด

เน้นสะท้อนภาพเหตุการณ์จริง

สำหรับประเด็นต่อมา การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ฝ่ายไทยจะไม่สร้างภาพลวง จะไม่ให้ข่าวบิดเบือนกล่าวหาว่าฝ่ายกัมพูชาลักพาตัวทหารไทยอย่างที่ฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวหาไทย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสิ่งที่คณะผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูตและสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ จะได้เห็นและจะได้สื่อสารไปทั่วโลก ก็คือ ความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล โรงเรียนและสถานที่สาธารณะที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นและพุ่งเป้าโจมตี ไปยังเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนและละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้บริสุทธิ์ต้องอพยพไปศูนย์พักพิงตอนนี้นับกว่าแสนคน

กต. จะเป็นผู้แจงรายละเอียดเรื่องลงพื้นที่วันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ จะแถลงข่าวในวันนี้ตอนเวลา 14.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ และจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพิ่มเติม สำหรับการแถลงข่าวของศบ.ทก. วันพรุ่งนี้ทางทีมโฆษกศบ.ทก.จะร่วมลงพื้นที่และมีการแถลงข่าวสดจากสถานที่จริง

ประเด็นที่สอง ที่การต่างประเทศได้มีการหารือในที่ประชุมศบ.ทก.วันนี้เกี่ยวกับจุดยืนของฝ่ายไทยและการเรียกร้องให้กัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคี รัฐบาลไทยขอย้ำจุดยืนต่อการยุติความขัดแย้งในครั้งนี้อีกครั้ง ว่าฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด อย่างที่ทำอยู่และมุ่งแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงต่าง ๆ ทุกรูปแบบ ทุกชนิดทันทีและทำตามข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวอย่างจริงจังและสุจริตใจ ในขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมกลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชาทุกเมื่อ โดยรอฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุม GBC ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการหาทางออกร่วมกัน

ศบ.ทก. เผยพาทูตดูจุดเกิดเหตุเน้นข้อเท็จจริง-20 ทหารกัมพูชาถูกคุมตัวเพราะกระสุนหมด

(编译:Eric 泰国中文社;审校:Alex;来源:Thairath)

Share This Article
没有评论

发表回复

您的邮箱地址不会被公开。 必填项已用 * 标注